ความหมายของแต่ละประเภท
1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด ทั้งรถของคุณเอง คู่กรณี และภัยธรรมชาติ
ชั้น 2+ คุ้มครองรถของคู่กรณี รถหายไฟไหม้ เหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม หากรถของคุณในกรณีที่ซื้อความคุ้มครองที่มีภัยธรรมชาติครอบคลุม
ชั้น 3+ คุ้มครองรถของคู่กรณี และรถของคุณเฉพาะกรณีที่มีคู่กรณี (อุบัติเหตุที่เกิดจากรถชนรถเท่านั้น)
รายละเอียดการคุ้มครอง
ชั้น 1
- ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก
- ความเสียหายต่อรถของคุณเอง (แม้ไม่มีคู่กรณี)
- ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม, ไฟไหม้
- รถหายหรือถูกโจรกรรม
ชั้น 2+
- คุ้มครองคล้ายชั้น 1 แต่ไม่คุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองภัยธรรมชาติและรถหาย
ชั้น 3+
- คุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอกและรถของคุณ เฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากรถชนรถเท่านั้น
- ข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภท
ชั้น 1 คุ้มครองครบทุกด้าน แต่เบี้ยประกันแพงกว่า
ชั้น 2+ เหมาะสำหรับรถที่อายุ 5-10 ปี มีราคาถูกกว่าชั้น 1
ชั้น 3+ ราคาถูกที่สุด แต่มีข้อจำกัดในการคุ้มครอง
เหมาะกับใคร?
ชั้น 1 ผู้ที่มีรถใหม่หรือรถราคาสูง ต้องการความคุ้มครองแบบครอบคลุม
ชั้น 2+ ผู้ที่มีรถอายุ 5-10 ปี และต้องการคุ้มครองที่เหมาะสมกับค่าเบี้ย
ชั้น 3+ ผู้ที่ขับรถน้อย และเน้นประหยัดค่าเบี้ย
คำแนะนำในการเลือกประกันที่เหมาะสม พิจารณาจากการใช้งานรถ อายุรถ และงบประมาณ
ลักษณะการใช้งาน เป็นคนขับรถเร็ว และเดินทางไกลเป็นประจำ แนะนำชั้น 1ขับรถไม่เกิน 2 คน แนะนำระบุผู้ขับขี่ ใช้รถน้อย ขับรถดี แนะนำ ชั้น 3+
ข้อแนะเพิ่มเติม ทำประกันอย่างน้อยๆควรเป็น ชั้น 3+ เผื่อคู่กรณีไม่มีประกัน และเป็นฝ่ายผิดขับมาชนรถเรา ยังมีประกันเราที่ครอบคลุมรถเราอยู่